เคล็ดลับบำรุงผิว

 ทาครีมบำรุงผิวหลังล้างหน้าอย่างถูกวิธี

        เมื่อเราทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว สิ่งต่อไปนี้เราจะต้องทำก็คือ กรบำรุงผิวหน้าของเราให้สุดชื่นแจ่มใส และเนียนนุ่มอยู่เสมอ ซึ่งเราก็ต้อง ใส่ดาวเอาไว้หลายๆ ดวงว่า เราจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงหน้า หรือที่เราเรียกง่ายๆ ว่า “ครีมทาหน้า” ให้เหมาะกับผิวหน้าของเรานั้นเอง ขั้นตอนการทาครีมบำรุงผิวหนเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด หรือทำอย่างไรให้สารบำรุงผิวเข้าไปสู่ผิวของเราได้มากที่สุดนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากไปกว่าวิธีที่เราทาแต่เดิมไม่เก่าเท่าไรเลย แถมให้คุณประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นอีกต่างหาก ซึ่งก็มีวิธีการดังต่อไปนี้

       ก่อนจะทาครีมทุกครั้งเราจะต้องล้างหน้า หรือทำความสะอาดผิวเสียก่อน เพื่อให้สิ่งสปรกที่ตกค้างอยู่บนผิวหน้าออกไปจนหมด เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น แล้วน้ำจะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้ครีมซึมลงสู่ผิวได้ จากนั้นก็บีบครีมออกมาตามจำนวนที่เหมาะสม แล้วแตะครีมไปยังส่วนต่างๆ ของหน้าจำนวน 5 จุด จากนั้นก็ใช้นิ้วทั้งสองเกลี่ยครีมไปให้ทั่วโดยให้เว้นส่วนที่เป็นบริเวณรอบดวงตาเอาไว้  ใช้ปลายนิ้วมือตบบริเวณที่ทาครีมเบาๆ เหมือนการทำกัวซาหน้าใส

       นอกจากบริเวณใบหน้าแล้ว เราก็อย่าลืมทาบริเวณคอ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำว่าครีมทีทหน้กับทคอควรจะเป็นครีมชนิดเดียวกัน โดยคาทนั้นให้ริมกจากบริเวณฐานแล้วไล่ขึ้นมาบริเวณคาง จะช่วยลดรอยเหี่ยวย่นได้ค่ะ เห็นใหมละคะว่มันไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยแถมยังง่ายแสนง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ลวดสลิง

หรือตัวแทนอะไรทั้งนั้น เราสามารถที่จะทำได้เองง่ายๆ เพียงแต่เรารู้วิธีการเท่านั้นเองค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะกับเคล็บลับ ล้างหน้าและทาครีมอย่างถูกวิธีของเรา

       ปกป้องตัวเองจำแสงเเดด เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นสาวๆ หรือหนุ่มๆ ก็คงจะไม่ชอบที่จะต้องเจอกับแสงแดด เพราะนอกจากจะทำให้ผิวคล้ำแล้ว ก็ยังเอาความชุ่มชื้น จากผิวหน้าออกไปทำให้ใบหน้ามีริ้วรอยก่อนวัย แถมยังหยาบกระด้างอีกด้วย แต่เราจะหาวิธีจัดการอย่างไรนั้น ก็ไม่ยากเกินที่เราจะรับมือรู้จักรังสียวีกันเถอะ ประเทศไทยบนเรานั้น เป็นประเทศที่มีแสงแดดที่ร้อนแรงอยู่แล้ว ซึ่งแสงแดดนี้สามารถทะลุทะลวงทำให้ผิวของเราเสียหาย ซึ่งรังสียูวีนั้นก็จะมากับแสงอาทิตย์ โดยแสงแดดที่สองมายัง

โลกนั้น จะประกอบด้วยรังสีทั้งหมด 3 ชนิดคือ

    1. รังสียวีเอ (UVA) เป็นรังสีที่ไม่เป็นอันตราย ซึ่งจะสองมาในช่วงเข้า การส่องมาที่ผิวหนังของเราจะไม่เข้าไปทำลายถึงผิวหนังกำพร้าและสามารถทำลาย แต่ก็มีผลเสียในระยะยาว

    2  รังสียูวีบี (UVB) เป็นแสงแดดที่ร้อนแรงกว่าแบบแรกโดยจะเข้าไปทำลายถึงผิวหน้ากำพร้า โดยจะทำให้ผิวเราไหม้ได้ นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย ซึ่งหากว่าเราออกไปตากแดดที่มีรังสียูวีบีก็จะทำให้เราเกิดอาการปวดแสบ ปวดร้อนบริเวณผิวหนังที่โดนแสงแดดได้

    3 รังสีที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

รังสียูวีนั้นเป็นอันตรายต่อร่างกาย แม้ว่าเราจะใส่เสื้อผ้าที่รัดกุม ก็สามารถทะลุทะลวงมานั้นอันตรายต่อผิวได้ ซึ่งครีมกันแดด ในสมัยนี้นั้นมีทั้งแบบเป็นครีมกันแดดโดยเฉพาะกับครีมกันแดดที่ผสมในครีมบำรุงผิวทั้งหลาย ถ้าพูดถึงครีกันแดดแล้วเราจะไม่พูดถึงค่าSPF ก็คงจะไม่ได้ เพราะค่า SPF ซึ่งค่านี้มันมีความสำคัญมากๆเลยค่ะ เพราะเนื่องจากนี่แหละที่เป็นตัวบอกถึงความยาวนานในการปกป้องเราจากแสงแดดที่จะเข้ามาทำร้ายผิวของเรา ซึ่งความเป็นจริงแล้วยิ่งมากยิ่งดีก็จริง แต่หากว่าไม่จำเป็น เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ครีมกันแดดมาก เพราะเปลืองเงินและเหนียวเหนอะไปเปล่าๆ แล้วคำถามต่อมาก็คือ แล้วอย่างนั้นเราจะใช้ครีมกันแดดเท่าไรละถึงจะพอดีกับความต้องการในแต่ละวันของเรา ซึ่งหากว่าเราใช้ในชีวิตประจำวัน และเราก็ไม่ต้องออกไปเผชิญกับแสงแดดมาก ก็ให้ใช้ครีม กันแดด ที่มีค่าตั้งแต่ 15 ขึ้นไป ซึ่งก็จะช่วยให้ป้องกันผิวของเราตั้งแต่ 6-10 ชั่วโมง ตามสีผิวของเรา แต่หากวันไหนที่เราจะต้องเผชิญกับแดดร้อน หรือ ต้องเผชิญกับอากาศร้อน หรือ จำเป็นต้องทำงานอยู่กลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ว่ายน้ำ ตีแบต เล่นฟุตบอลก็ตาม หรือว่าต้องไปทะเลก็ตามก็ให้ใช้กันแดตที่มี SPF 30 ขึ้นไป ซึ่งหากว่าเราต้องไปเที่ยวทะลในหน้าร้อนที่มีแสงแดดร้อนแรงก็ปกตินั้น อาจจะใช้ SPF 45 ก็ได้ สำหรับครีมกันแดดปกตินั้น เราจะต้องทาครีมก่อนออกแดด ประมาณ 15-20 นาที แต่ครีมกันแดดบางยี่ห้อก็สามารถหาแล้วออกแดดได้เลย ก็แล้วแต่เราจะเลือกใช้ นอกจากนี้ครีมกันแดดบางยี่ห้อก็สามารถกันน้ำได้อีกด้วย กรณีที่เราไปทะเลหรือสะว่ายน้ำ แต่หากว่าในชีวิตประจำวันเราก็ใช้แบบธรรมดาได้เช่นกัน ดังนั้น เราจะใช้ครีมกันแดดแบบใดนั้น ก็แล้วแต่ว่าเราจะต้องไปเจอกับสภาพแดดแบบไหน ต้องไปลุยแบบไหน และผิวของเราเป็นแบบใด ซึ่งหากว่าเราต้องไปเจอกับแสงแดดที่ร้อนแรงอย่างการไปทะเลก็อยลืมใช้ครีมกหลังออกแดดก็จะช่วยบรรเหาอการไหม้แดดได้เป็นอย่างดี

     คุณรู้ไหมว่า รังสียูวีนั้นเป็นอันตรายต่อร่างกาย แม้ว่าเราจะใส่เสื้อผ้าที่รัดกุม ก็สามารถทะลุทะลวงมานั้นอันตรายต่อผิวได้ ซึ่งครีมกันแดด ในสมัยนี้นั้นมีทั้งแบบเป็นครีมกันแดดโดยเฉพาะกับครีมกันแดดที่ผสมในครีมบำรุงผิวทั้งหลาย ถ้าพูดถึงครีกันแดดแล้วเราจะไม่พูดถึงค่าSPF ก็คงจะไม่ได้ เพราะค่า SPF นี่แหละที่เป็นตัวบอกถึงความยาวนานในการปกป้องเราจากแสงแดดที่จะเข้ามาทำร้ายผิวของเรา ซึ่งความเป็นจริงแล้วยิ่งมากยิ่งดีก็จริง แต่หากว่าไม่จำเป็น เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ครีมกันแดดมาก เพราะเปลืองเงินและเหนียวเหนอะไปเปล่าๆ แล้วคำถามต่อมาก็คือ แล้วอย่างนั้นเราจะใช้ครีมกันแดดเท่าไรละถึงจะพอดีกับความต้องการในแต่ละวันของเรา ซึ่งหากว่าเราใช้ในชีวิตประจำวัน และเราก็ไม่ต้องออกไปเผชิญกับแสงแดดมาก ก็ให้ใช้ครีม กันแดด ที่มีค่าตั้งแต่ 15 ขึ้นไป ซึ่งก็จะช่วยให้ป้องกันผิวของเราได้เหมือนกันตามสีผิวของเรา

แต่หากวันไหนที่เราจะต้องเผชิญกับแดดร้อน หรือ ต้องเผชิญกับอากาศร้อน หรือ จำเป็นต้องทำงานอยู่กลางแจ้ง หรือว่าต้องไปทะเลก็ตามก็ให้ใช้กันแดตที่มี SPF 30 ขึ้นไป ซึ่งหากว่าเราต้องไปเที่ยวทะลในหน้าร้อนที่มีแสงแดดร้อนแรงก็ปกตินั้น อาจจะใช้ SPF 45 ก็ได้  สำหรับครีมกันแดดปกตินั้น เราจะต้องทาครีมก่อนออกแดด ประมาณ 15-20 นาที แต่ครีมกันแดดบางยี่ห้อก็สามารถหาแล้วออกแดดได้เลย ก็แล้วแต่เราจะเลือกใช้ นอกจากนี้ครีมกันแดดบางยี่ห้อก็สามารถกันน้ำได้อีกด้วย กรณีที่เราไปทะเลหรือสะว่ายน้ำ แต่หากว่าในชีวิตประจำวันเราก็ใช้แบบธรรมดาได้เช่นกัน ดังนั้น เราจะใช้ครีมกันแดดแบบใดนั้น ก็แล้วแต่ว่าเราจะต้องไปเจอกับสภาพแดดแบบไหน ต้องไปลุยแบบไหน และผิวของเราเป็นแบบใด ซึ่งหากว่าเราต้องไปเจอกับแสงแดดที่ร้อนแรงอย่างการไปทะเลก็อย่าลืมใช้ครีมกหลังออกแดดก็จะช่วยบรรเหาอการไหม้แดดได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นแล้ว มีครีมกันแดดยี่ห้อไหนบ้างหล่ะที่ถูกและดีจริงๆ การใช้ครีมกันแดดที่เหมะสมกับสภาพผิวนี่เป็นอีก อย่างเช่น ครีมกันแดดจากประเทศญี่ปุ่นที่โด่งดัง นั่นก็คือ ครีมกันแดดยี่ห้อไบโอเร่ ที่มีspf50+ pa+++เชียวนะคะ เป็นครีมกันแดดสูตรบางเบามากๆ เรียกว่าทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหน่ะหน้าเลยค่ะ แถมยังเป็นสูตรกันน้ำอีกด้วย เรียกว่าถ้าใครจำเป็นต้องว่ายน้ำกลางแดดจ้า ำม่ต้องกลัวดำเลยทีเดียวค่ะ แถมเมื่อเจอกับเหงื่อก็ไม่ต้องกังวลว่ากันแดดยี่ห้อนี้จะกันแดดกลางแจ้งได้ไม่ดี เพราะยังมีspf และ pa+++ที่สูงมากๆเลย และยแบรนด์ไบโอเร่ ยังได้รับการันตีจากสาวๆหนุ่มๆจากแดนปลาดิบว่าเด็ดจริงอะไรจริง เพราะไบโอเร่ได้รางวัลมากมาย เนื่องจากเป็นสินค้าอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ ราคาก้ไม่แพง ราคาเพียง 285 บาทเท่านั้น หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า และร้านชอปเล็กๆทั่วไป ตามตลาดนัดก็มีวางขายบ้างแล้วค่ะ นอกจากจะต้องทาครีมกันแดด ทุก 2 ชั่วโมงแล้ว แล้วก่อนออกแดดสัก 15 ถึง30 นาที อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยค่ะ ช่วยป้องกันรอยไหม้ รอยฝ้าจากแสงแดดด้วยค่ะ และที่สำคัยป้องกันไม่ให้ผิวของเราคล้ำเสีย และโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วยนะคะ นอกจากทาครีมกันแดดแล้ว หลังออกแดด อย่าลืมบำรุงผิวกายและผิวหน้า ด้วยว่านหางจระเข้ด้วยนะคะ เผื่อมีรอยไหม้จากการได้รับแสงแดด ก็จะช่วยบรรเทาได้เยอะเลยค่ะ

วิธีทำครีมกันแดดด้วยตนเองก็ไม่ยากเลยค่ะ เพียงใช้วัตถุดิบตามภาพด้านบน มากลั่นโดยเอาแต่น้ำมันของพืชเหล่านั้นก็จะทำให้ผิวของเราสามารถปลอดภัยจากแสงแดดที่จะมาทำร้ายผิงวของเราแล้วค่ะหากเราใช้ครีมกันแดดทุกวันก็ทำให้เรามีผิวที่ขาวขึ้นได้ได้แล้วค่ะ

บางทีคนผอมแม้ส่วนอื่นๆ ในร่างกายของเราดูผอมลงไปด้วย ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีของสาวๆ แต่กลับไปผลที่หน้าท้อง เห็นเป็นพุงน้อยๆ ใหงเห็นกัน เรามีวิธีกำจัด เพื่อให้หน้าท้องแบนรบ

แถมท่าออกกำลังกายลดสัดส่วน

ท่าที่ 1 เริ่มต้นกันด้วยก่นที่ท่านี้สำหรับกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนบนก่อน หรือแถวบริเวณที่เราเรียกว่าพุง

 นอนราบกับพื้นยกเข่าทั้งสองขึ้นตั้งฉาก ไขว้ข้อเท้าทั้งสองให้ขัดกันไว้  ประสานแขนรองใต้ศีรษะ ทำเหมือน เป็นหมอนรองใดศีรษะ  ยกใหล่และศีรษะขึ้น จะรู้สึกเกร็งบริเวณกล้ามเนื้อหนท้อง ค้างไว้ นับ 1:10 พักขาและไหล่ลงทำซ้ำอีก 12 ครั้ง

ท่าที่ 2 ท่านี้จะบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง นอนหงายราบกับพื้น ใช้แขนตั้งลำตัว งอเข่ขาตั้งฉากชูขึ้น ค้างไว้ นับ 1-10 จากนั้นวางขาลงแล้วทำซ้ำอีก 12 ถ้ายกลำตัวไม่ไหว ให้วางแขนทั้งสอง ข้างราบกับพื้นข้างลำตัว แล้วยกปั้นท้ายขึ้น ให้ช่วงก้นลอยจากพื้น งอเขาทั้งสองตั้งฉากชูขึ้นข้งบน ดึงเข่าเข้าหาคาง อย่าพยายามให้เขาเลยคางออกมา ค้างไว้ นับ 1 ถึง 10 ทำซ้ำอีก 12 ครั้ง

ท่าที่ 3 ท่านี้จะเน้นบริเวณช่วงกลางลำตัวทั้งหมด นอนหงายราบกับพื้น มือประสานที่

ท้ายทอย แล้วค่อยๆ งอเข่าซ้ายขึ้น ดึงเข้าหาศอก พร้อมกับยกข้อศอกค้นขวาเข้าไปหาเข่าซ้าย ขณะที่ยกขาขวาเหยียดตรง ทำมุม 30 องศากับลำตัว สลับเปลี่ยนข้าง เป็นเข่าขวาและข้อศอกซ้าย พร้อมกับขาซ้ายยกเหยียดตรง ทำซ้ำข้างละ 10 ครั้ง รวมเป็น 20 ครั้ง

ท่าที่ 4 ท่านี้สำหรับบริหารกล้ามเนื้อด้านข้างและหน้าท้อง นอนหงายราบกับพื้น มือประสานกันไว้ที่ท้ายทอย  ซันเข่าขึ้น พาดขาซ้ายที่เข่ขวา เหมือน นั่งไขว่ห้าง. ยกศีรษะขึ้น ยกข้อศอกขวาขึ้น พร้อมไหล่ขวาบิดเข้าหาตัวด้านซ้าย  ทำสลับข้าง ข้างละ 10 ครั้ง รวมเป็น 20 บริหารกล้ามเนื้อแขน ลดความหย่อนยาน

     สาวๆ หลายคนคงไม่อยากดูผอม แต่มีรูปร่างที่หย่อนยานโดนเฉพาะกล้ามเนื้อแขนทั้งสองเป็นปัญหาที่สาวเคยอ้วนมักต้องเจอหลังจากที่ลด ความอ้วนแล้ว ดังนั้นเราจึงมีวิธีการฟิตแขนให้กลับมากระชับ พร้อมใส่เสื้อกล้ามโชว์เรียวแขนอย่างถือดัมบ์เบลล์หนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม ไว้ทั้งสองมือ แล้วยกขึ้นลงสลับกัน โดยที่เกร็งข้อศอกไว้ ทำประมาณ 20 ครั้ง จากนั้นโน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย ถือดัมบับลล์ล้วหยียดไปด้านหลังข้ๆ สลับซ้ายขวาประมาณ 20 ครั้ง ต่อมายืนตัวตรง แล้วถือดัมบ์เบลล์กางแขนเหยียดไปด้านข้าง โดยให้สูงระดับไหล่ แล้วมั่นใจ หุบลงข้างลำตัว ยกขึ้นลงสลับกัน 10 ครั้ง สุดท้ายยกดัมบับลล์ข้างซ้ายชูขึ้นด้านบนแล้วงอศอก จนรู้สึตึงที่ด้านหลังแขน ค้างไว้นับ 1-10 แล้วจึงสลับข้างทำแบบเดียวกัน สลับไปมา ซ้ายและขวา ประมาณ 20 ครั้ง ออกกำลังกายลดต้นขา  เมื่อใครๆ ต่างชื่นชอบที่จะชวนคุณไปกิน ช้าวขาหมู และสั่งข้วเปลทุกครั้งเพราะขาหมูมี อยู่ที่คุณแล้ว คุณคงยิ้มแบบหน้าชื่นอกชื่นใจ รีบหาตำราลดแข้งลดขาเป็นการใหญ่ วันนี้เรามีวิธีลดต้น ขาให้ดูเรียวงาม เรียกว่าหนุ่มคนไหนที่เคยประณามหยามหยียดคุณไว้ ต้องรีบมาสยบและสมัครเป็นบอดี้การ์ดเลยทีเดียว

ประการแรก : ใจแข็งเข้าไว้ อย่าปล่อยให้ตัวเองเคลิบ-เดลิ้มไปกับอหารอันโอชะ ที่เต็มไปด้วยไขมัน จำไว้ว่าเด็กๆอ้วนนะน่ารัก แต่ผู้ใหญ่อัวนน่ะนำเกลียด

ประการที่สอง :บริหารร่างกาย หรือออกกำลังซะบ้าง โดยเข้าเวตด้วยขาโดยใช้เวตที่มีน้ำหนักขนาด กิโลกรัมกำลังดี โดยให้คุณนั่งเก้าอี้ จากนั้นวางเวตไว้บนขาแล้วยกเวต หรือจะให้ดีควรนอนราบกับพื้น ผูกเวตติดกับขาแล้วยกให้สูงจากพื้น 45 องศา จากนั้นยกคงไว้ เมื่อร่งกายของคุณปรับสภาพให้เข้ากับน้ำหนักของเวตได้แล้ว ก็เริ่มยกขึ้น ลงให้เร็วขึ้นโดยทำทีละข้างๆ ละเท่ๆ กัน หากคุณมีเวต 2 อันก็อาจยกขึ้นลงสลับกันก็ได้ เมื่อชำนาญแล้วอาจ ยกให้สูงขึ้นกว่าเดิมอีก เน้นให้ต้นขาได้ขยับเขยือน ทำเช่นนี้ 3 เซต เซตละ 10 ครั้ง โดยทำอาทิตย์ละ 23 ครั้งก็จะดี ลดต้นขค้นในก็ทำได้ง่ายๆ โดยการนอน  ราบลงบนพื้น จากนั้นไขว้ข้อเท้ไว้ด้วยกัน แล้วงอเขาเข้มาให้ชิคร่งกาย แล้วยืดออก จากนั้นให้คลายเท้าทั้งสองออกจากกันกลับมาสู่ท่เดิม แล้ว เริ่มทำใหม่ 16ถึง24 ครั้งต่อวัน ต้นขาด้านในของคุณหากคุณขี้เกียจซื้ออุปกรณ์ ก็ให้คุณว่ายน้ำขี่จักรยานอยู่กับที่ หากคุณปั่นจักรยานด้วยความเร็วสูงต้นขาจะลดทันตาเห็น แต่หากคุณปั่นซ้ำ น่องของคุณก็จะใหญ่ขึ้นทันตาเห็นเช่นเดียวกัน นอก.จากนี้กีฬาที่ต้องใช้ขาอีกเช่น ปีนเขา เดินเล่น หรือแอโรบิกก็ช่วยได้ แต่ขอเตือนด้วยความหวังดี สำหรับกีฬาแอโรบิก เพราะมันไม่ได้ทำให้คุณผอมลง แต่มันจะทำให้กล้ามนื้อกระชับขึ้น ต้นขาอาจจะดูเล็กลงเพราะความกระชับของกล้ามเนื้อ แต่น่องจะใหญ่ขึ้น บรรดาที่ฬที่ใช้ขาทั้งหลายเหล่านี้ ยังช่วยลดไขมันที่มาละสมบริเวณหัวเขาได้ด้วย จะดูเล็กลง ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ให้คุณๆ จำไว้อย่างหนึ่งว่ ร่างกายของ แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเกิดมาพร้อมกับเซลลูไลต์ แม้วจะพยายามออกกำลังกายให้หนักอย่างไร ก็ไม่สามารถกำจัดให้หมดสิ้นลงได้ ผลที่ตามมาของการมีเซลลูไลต์มากๆ คือ แผลพุพอง ทีเกิดจกการเสียดสีกันของเนื้อที่ต้นขาทั้งสองข้าง นำไปสู่การอักเสบ ผิวหนังถลอก และปวดแสบปวดร้อน ดังนั้นหากคุณรู้ตัวว่าเป็นคนที่มีฉายา ว่าแม่ขาหมู การควบคุมอหาร และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งที่คุณจะต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง

Comments

คอมเม้นกันหน่อย