“Philophobia” 5 ข้อควรรู้กับ “โรคกลัวความรัก” ที่กลัวเพราะความรักมันแย่หรือแพ้ปัจจัยอื่น!

อย่างที่เราทุกคนทราบกันดี ว่าความรักนั้นคือสิ่งที่สวยงาม คือสิ่งที่แสดงออกซึ่งความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ และความเสน่หาทั้งหมดของมนุษย์ แต่ถึงแม้ความรักจะดูดีมีสีสันขนาดนั้น แต่ก็มีหลายๆคนที่ “กลัว” เจ้าสิ่งนี้อยู่นะคะ

“Philophobia” คืออาการป่วยทางจิต ซึ่งจะมีอาการปฏิเสธความรู้สึกพิเศษจากรูปแบบสัมพันธ์เชิงชู้สาว โดยไม่สนว่าเราจะเป็นผู้ให้หรือรับความรัก ลองนึกภาพว่าเราเกิดหวั่นไหว ชอบใจ ได้ปลื้มใครขึ้นมา แต่เราเองกลับเป็นฝ่ายที่รู้สึกกังวลใจและเป็นคนทำให้ความรักที่จะเกิดขึ้นมันพังด้วยตัวเองซะอย่างนั้น

นั่นแหล่ะค่ะอาการของมัน เห็นมั้ยละคะว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย ไหนๆนี่ก็เป็นเดือนแห่งความรักทั้งที แอดมินก็อยากจะเอาเรื่องน่ารู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเจ้า “Philophobia”  มาให้สาวๆได้รู้กัน

1. คนที่มีอาการนี้ จะหวั่นไหว อึดอัด และเครียดๆทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับ “ความรัก”

image2

เมื่อเรากลัวอะไรแล้วต้องอยู่ใกล้กับสิ่งนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องรู้สึกอึดอัด และ หวาดระแวงเวลาที่เราต้องอยู่ใกล้มันใช่มั้ยล่ะคะ คงไม่มีคนกลัวงูคนไหนแฮปปี้ดี๊ด๊าเวลาอยู่ใกล้งูหรอกใช่มั้ยล่ะ?


2. คนที่มีอาการนี้จะรักสันโดษเอามากๆจนนึกว่าเป็นพวกขวางโลก หรือโลกส่วนตัวสูง

image3

เคยอยู่ใกล้ๆกับใครแล้วรู้สึกว่าเค้ามีกำแพงมหึมาล้อมรอบตัวเค้าไว้มั้ยคะ ไม่แน่คนๆนั้นอาจจะเป็น “Philophobia” ก็ได้นะ คนที่มีอาการเหล่านี้บางครั้งอาจจะไม่อยากจะรับแม้กระทั่งความหวังดีจากคนอื่นเลยนะคะ เพราะพวกเขาหรือเธอหวาดระแวง และระแวดระวังว่านั่นอาจจะเป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่เข้ามาในชีวิต


3. เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์รักๆ ใคร่ๆ อาจจะแสดงอาการทางกายภาพเช่น เหงื่อแตก ร้องไห้ ใจสั่น หัวใจเต้นรัวเร็ว หายใจแรง มือเท้าชา อาเจียน หรือถึงขั้น เป็นลมหมดสติ

image4

คล้ายๆกับข้อที่ 1 ผู้ที่มีอาการเหล่านี้จะอึดอัดและเครียดเอามากๆจนบางครั้งพวกเขาจะแสดงอาการทางกายภาพออกมาเลยทีเดียว พวกเขาอาจจะลุกลี้ลุกลน เหงื่อแตก ร้องไห้ ใจสั่น หัวใจเต้นรัวเร็ว หายใจแรง มือเท้าชา อาเจียน หรือถึงขั้นเป็นลมหมดสติไปเลยทีเดียว


4. ครอบครัว สังคม และประสบการณ์ความรัก คือปัจจัยหลักที่จะทำให้เกิดโรคนี้

image5

อาการนี้เกิดขึ้นได้ด้วยหลากหลายปัจจัยด้วยกัน นั่นคือทั้งจากสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์ สำหรับใครที่สงสัยว่าตัวเองเป็นหรือไม่เป็นโรคนี้อยู่ แอดมินอยากจะให้เราคิดทบทวนดูว่าเหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นกับเรารึเปล่า

– เติบโตจากครอบครัวที่มีปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว จนปลูกฝังกลายเป็นทัศนคติไม่ดีเกี่ยวกับความรัก และฝังลึกมาตั้งแต่เด็กๆ

– เรามีสังคม วัฒนธรรม ประเพณี หรือศาสนาที่เข้มงวดมากไป จนหล่อหลอมซึมลึกเข้าไปสู่จิตใต้สำนึก จากความเกรงกลัวต่อบทลงโทษที่อาจเกี่ยวกับความรักรึเปล่า

– เราเคยมีประสบการณ์ความรักที่ล้มเหลวซ้ำๆซากๆ จนเกิดเป็นบาดแผลฝังลึกให้กับจิตใจ ทำให้ไม่อยากต้องมีความรัก ที่สุดท้ายก็จะต้องผิดหวังอีกหรือไม่

ถ้าเราเข้าข่ายเจ้าสถานการณ์ต่างๆที่แอดมินว่ามา และยังมีอาการจากข้อต้นๆแล้วล่ะก็ เราอาจจะมีอาการ “Philophobia” ก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าได้ตระหนกตกใจกลัวไป มันยังไม่ได้แย่ขนาดนั้นค่ะ เดี๋ยวเราไปดูวิธีรักษากันเลย


5. “Philophobia” รักษาได้ อยากสัมผัสความรักดีๆซักครั้ง ต้องกล้าที่จะเปลี่ยน

image6

หนุ่มๆสาวๆอย่าเพิ่งเครียดไป เจ้าโรคนี้มีทางรักษาได้ค่ะ ความคิดและทัศนคติที่ดี เป็นสิ่งสำคัญมากๆสำหรับคนที่มีอาการเหล่านี้ หากพบว่าตัวเองหรือคนรอบข้างที่รู้จักมีอาการแบบนี้ ควรลองไปพบแพทย์เพื่อพูดคุยและปรึกษาหาทางแก้ไข

และแอดมินอยากให้พวกเราทำความเข้าใจกันใหม่ คือการพบจิตแพทย์ ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนบ้า หรือมีอาการทางประสาทเพียงอย่างเดียวนะคะ การพบแพทย์เพื่อพูดคุยถึงปัญหา และหาทางออกร่วมกัน การรักษาจะมีตั้งแต่การเผชิญหน้าเปิดใจเรื่องความรัก ไปจนถึงการกินยา ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดที่ควรจะทำ เพื่อสุขภาพจิตและอนาคตที่ดีขึ้นเราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนนะคะ


เอ๊ะ! หรือหนุ่มสาวคนไหนคิดว่า “เงิน” คืออุปสรรคกับความรักรึเปล่า ใครๆก็คิดใช่มั้ยล่ะ แอดมินยังคิดเลย ฮ่าฮ่า เพื่อตัดปัญหานี้ออกไป หนุ่มสาวๆที่กำลังเรียนอยู่ลองไปลงทุนกันก่อนเรียนจบเลยเป็นไง คลิก ก่อนเรียนจบ ก็รวยได้ ด้วยการลงทุน หรือสาวๆคนไหนคิดว่าการท่องเที่ยวเพื่อไปเจอสภาพแวดล้อมใหม่ๆจะทำให้เราเปลี่ยนแปลงทัศนคติไม่ดีเหล่านี้ได้แต่กลับไม่มีงบในการเที่ยว คลิก 5 เคล็ดลับเก็บเงินเที่ยวอย่างสบายใจ หรืออยากจะเป็นสาวแฮปปี้ๆ มีความสุขได้ด้วยตัวเรา แอดมินก็อยากจะชวนสาวๆไป ตั้งเป้าหมาย…ขอเป็นสาว Happy ตลอดปี ลองคลิกเข้าไปดูกันนะคะ

เป็นยังไงกันบ้างล่ะคะ กับข้อคิดน่ารู้ดีๆเกี่ยวกับเจ้าโรค “Philophobia” มันไม่ได้น่ากลัวหรือเลวร้ายอย่างที่คิด อยากรักอีกครั้งต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงนะคะ ♥ สุดท้ายแอดมินขอแถมคลิปดีๆเกี่ยวกับโรคกลัวความรักมาให้สาวๆได้ดูกัน