ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

ฮัลโหลเกิร์ลทั้งหลายยย ชอบแต่งหน้ากันมั๊ยเอ่ย? ถ้าชอบแสดงว่าก็ต้องรู้จักผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับทำความสะอาดผิวหน้า แล้วสาวๆเคยสงสัยรึเปล่าว่า ไอ้เจ้าผลิตภัณฑ์ทำความผิวสะอาดหน้าทำไมถึงมีชื่อเรียกคล้ายๆกัน มันไม่ใช่ตัวเดียวกันหรอ? อย่างเจ้า Cleansing Cleanser toner  เนี่ยมันแตกต่างกันยังไง แอดเชื่อว่ายังมีสาวๆจำนวนไม่น้อยที่ยังสงสัยและมึนงงอยู่ไม่น้อย งั้นไปทำความรู้จักกันเลยค่า

1.Cleansing

ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

Cleansing ก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ “เช็ด” ทำความสะอาดผิวหน้า โดยมันจะเอาสิ่งสกปรก คราบมัน รวมถึงเครื่องสำอางออกไป หากสาวๆเป็นคนชอบแต่งหน้า หรือทาครีมกันแดด ก็ควรใช้ Cleansing เช็ดหน้าก่อน เพื่อรูขุมขนเราจะได้ไม่อุดตัน ซึ่ง Cleansing นี้ก็มีหลายประเภท

ประเภทของCleansing

1.1 Cleansing water

ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Oil-Free คือไม่มีส่วนผสมของน้ำมันอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นชนิดที่สาวๆนิยมใช้มากที่สุดก็ว่าได้ เพราะใช้ง่าย เพียงแค่เทลงบนสำลีและค่อยๆ เช็ดเครื่องสำอางออก จนสำลีไม่มีคราบเครื่องสำอางติดอยู่หรือจนผิวสะอาด แถมบางยี่ห้อยังไม่ต้องล้างน้ำตามอีกด้วย

1.2 Cleansing sheet

ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

ในปัจจุบัน Cleansing sheet หรือ Makeup Remover Wipes เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น จะมีลักษณะคล้ายๆ ทิชชู่เปียก หรือ Baby wipe ที่เราคุ้นเคยกันว่าเอาไว้เช็ดก้นเด็กนั่นแหละ  แต่ส่วนที่แตกต่างกันก็คือส่วนผสม เพราะ Cleansing sheet จะมีส่วนประกอบเป็นตัวทำความสะอาดเครื่องสำอางค์อยู่ด้วย ข้อดีคือพกพาสะดวก ใช้งานง่าย และมีหลายคนที่เห็นว่ามันก็คล้ายๆกับทิชชู่เปียกของเด็กนิ ถ้างั้นเอาทิชชู่เปียกเช็ดก็ได้ไม่เป็นอะไรมั้ง โนวๆไม่ได้ค่ะ  เพราะทิชชู่เปียกบางยี่ห้อมีส่วนผสมซึ่งอาจจะเกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้าของเราได้

1.3 Cleansing Gel

ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

เนื้อ Cleansing จะเป็นลักษณะใสๆ หรือบางยี่ห้ออาจจะเป็นเนื้อเจลขุ่นๆ ซึ่งจุดเด่นของแต่ละยี่ห้อก็จะแตกต่างกันออกไปอีก ไม่ว่าจะในเรื่องของส่วนผสม ลักษณะการใช้ที่แตกต่างกันออกไป

1.4 Cleansing Oil

ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

สำหรับสาวๆ ที่ชอบแต่งหน้าหนักๆ หน้าไม่เต็มออกจากบ้านไม่ได้ หรือวันไหนมีออกงานสังคมต้องฟาดรองพื้นไฮไลท์จุกๆ ยังไม่พอเครื่องสำอางค์กันน้ำอีก เจ้า Cleansing oil เป็นตัวช่วยในการทำความสะอาดผิวหน้าที่ดีเลยเพราะน้ำมันบวกกับส่วนผสมต่างๆจะสามารถล้างเครื่องสำอางออกได้ง่ายดายอย่างมาก การใช้ง่ายก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เทเนื้อผลิตภัณฑ์ลงบนฝ่ามือ และนวดเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า จากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด

1.5 Cleansing milk

ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

น่าจะเป็นไอเท็มโปรดของใครหลายๆ คน เพราะบางยี่ห้อกลิ่นของเนื้อผลิตภัณฑ์จะออกนุ่มๆ ละมุนๆ คล้ายๆ กับนม วิธีใช้ก็เพียงนวดเบาๆ บนผิวหน้าจนเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกหมด จากนั้นให้ใช้สำลีหรือฟองน้ำเช็ดหน้าชุบน้ำแล้วเช็ดเนื้อผลิตภัณฑ์ออก ถ้ายังรู้สึกว่ายังไม่สะอาดพอก็ทำซ้ำไปแล้วค่อยล้างหน้าตามปกติ

1.6 Cleansing cream

ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

 เนื้อผลิตภัณฑ์ของ Cleansing ชนิดนี้ จะมีความเข้มข้นกว่าคลีนซิ่งชนิดอื่นๆ ลักษณะคล้ายครีมบำรุง และแน่นอนว่ามันเหมาะกับสาวผิวแห้งมาก เพราะถือว่าเป็นการเติมน้ำให้ผิวไปในผิวหน้าด้วย วิธีใช้จะคล้ายๆ Cleansing milk โดยการเทเนื้อผลิตภัณฑ์นวดวนๆ ไปทั่วใบหน้าจนเครื่องสำอางหลุดออกหมด


2.Cleanser

ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

Cleanser ก็คือผลิตภัณฑ์ “ล้าง”ทำความสะอาดใบหน้า หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ “โฟมล้างหน้า” นั้นเอง  มีคุณสมบัติล้างเอาสิ่งสกปรก และคราบมันบนใบหน้าเราออก เราอาจจะคุ้นชินกับการเรียกโฟมล้างหน้า แต่อย่าลืมว่าผลิตภัณฑ์ล้างหน้าทุกอย่างไม่ได้เรียกว่า “โฟม” เสมอไป  เพราะมันมีทั้งโฟมล้างหน้า เจลล้างหน้า โลชั่นล้างหน้า สบู่ล้างหน้า เยอะแยะไปหมด แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้จะเรียกรวมๆ กันว่าเป็น Cleanser

2.1 สบู่ล้างหน้า

ที่เราเห็นบ่อยๆ ตามท้องตลาด เวลาล้างแล้วจะรู้สึกว่าหน้าสะอาด ปราศจากความมัน ผิวตึงหลังล้างเสร็จ ซึ่งสำหรับคนที่อยากถนอมผิวมากๆ มักจะหลีกเลี่ยงการใช้สบู่ล้างหน้า เพราะว่าสบู่มีส่วนผสมที่ค่อนข้างแรง มันสามารถล้างสิ่งสกปรก ความมันได้หมดจดก็จริง แต่ในขณะเดียวกันก็ดึงความชุ่มชื้นไปด้วย

2.2 เจลล้างหน้า

จะมีลักษณะเป็นเนื้อเจลเหลวสีใส ดูเนื้อไม่หนัก มีทั้งแบบที่มีฟองและไม่มีฟอง โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่มักจะแนะนำว่าเจลล้างหน้าจะเหมาะกับคนที่มีผิวมัน หรือผิวผสม เพราะว่ามีเนื้อเจลที่ไม่หนามาก แต่จริงๆ แล้ว สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวเลยจ้า

2.3 โฟมล้างหน้า

ที่เราคุ้นเคยกันดี เจ้าโฟมล้างหน้าเนี่ยมีลักษณะเป็นเนื้อครีมข้นๆ หรือคล้ายๆ เนื้อของยาสีฟัน แล้วพอนำมาผสมน้ำก็จะเกิดเป็นฟอง แต่บางยี่ห้อก็มีแบบที่บีบออกมาแล้วเป็นฟองเลย  สะดวกต่อการใช้งานมากๆ ไม่ต้องเสียเวลาตีฟองให้ยุ่งยากเลย ซึ่งโฟมล้างหน้าจะชำระสิ่งสกปรก คราบมันได้อย่างดี 

2.4 โลชั่นล้างหน้า

ลักษณะจะเป็นเนื้อครีม เหมาะสำหรับคนผิวหน้าธรรมดา ความพิเศษของ Cleanser ชนิดนี้ก็คือ มีความชุ่มชื้นสูง สามารถล้างหน้าความสะอาดสิ่งสกปรก คราบมันได้อย่างอ่อนโยน

ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

อ้ะยังไม่หมด ทำความรู้จักกับ Cleansing และ Cleanser กันไปแล้ว ทีนี้มารู้จักกับ Toner กันต่อ


3. Toner

ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

Toner คือ โลชั่นเช็ดผิว มีหน้าที่ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างจากการล้างทำความสะอาดใบหน้า ช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมก่อนการทาครีมบำรุงผิว เพื่อให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น

โทนเนอร์ที่ดีควรมีส่วนผสมของวิตามินและเกลือแร่ที่มีสารประกอบเพื่อช่วยในการบำรุงผิว ช่วยลดความมัน กระชับรูขุมขนสำหรับคนผิวมัน ช่วยเติมความชุ่มชื้นสำหรับคนผิวแห้ง โทนเนอร์ที่ดีอาจจะมีราคาแพง แต่เมื่อเทียบกับผลที่ได้แล้วนับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก

ใช้ Cleansing Cleanser Toner มาตั้งนานแต่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร!!

ทีนี้ก็รู้แล้วใช่มั๊ยคะว่าเจ้าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า3ตัวนี้แตกต่างกันอย่างไรแล้วแต่ละชนิดมีหน้าที่อะไรบ้าง


แอดจะสรุปให้นะคะ

  • ถ้าวันไหนสาวๆแต่งหน้าก็ให้ใช้ Cleansing เช็ดเครื่องสำอางออกก่อน
  • แล้วใช้ Cleanser ล้างทำความสะอาดหน้าอีกที เมื่อล้างหน้าเสร็จแล้วให้ซับหน้าให้แห้ง
  • ใช้ toner เช็ดเบาๆเพื่อปรับสภาพผิวก่อนทาครีมบำรุงนั้นเองค่ะ

ทุกๆผลิตภัณฑ์ล้วนมีข้อดีข้อเสียในตัวเพราะฉะนั้นควรศึกษาข้อมูลวิธีการใช้ที่ถูกต้องเสียก่อน ถ้าเราใช้มันอย่างเข้าใจและถูกวิธีละก็ รับรองว่าสาวๆต้องมีผิวหน้าเรียบเนียนกระจ่างใสแน่นอน