how to แต่งหน้า ‘makeup no makeup’ ไม่ให้ผู้รู้ว่าโบ๊ะมา!!

สวัสดีค่ะสาวๆ กลับมาพบกับ Girlsallaround กันอีกแล้วนะคะซิสส >< วันนี้เราจะพาสาวๆมาเข้าคอร์สแต่งหน้า ‘แต่งหน้ายังไงให้สวยใส แต่ผู้จับไม่ได้ว่าโบ๊ะมา’ หรือ Makeup no makeup นั่นเอง รับรองว่างานนี้หน้าใสผิวดีตั้งแต่เกิดเลยล่ะ

 

  1. หน้าต้องชุ่มชื้น ผิวต้องฉ่ำ ไม่แห้งเป็นขุย เพราะหน้าเป็นขุยและแต่งหน้า เค้าจับได้แน่นอน

ก่อนแต่งหน้าก็ต้องบำรุงผิวให้ฉ่ำๆกันก่อนนะจ้ะสาวๆ สำหรับสาวๆผิวมันเลือกสกินแคร์ที่บางเบาแต่เติมน้ำให้ผิวได้ดีเช่นพวกน้ำตบทั้งหลาย หรือสกินแคร์เนื้อเจลสำหรับคนผิวมัน ส่วนสาวๆผมผสมก็ตามใจชอบแล้วแต่สภาพผิวในแต่ละวันนะจ้ะ และสำหรับสาวๆผิวแห้ง สำคัญมากๆๆเลยนะขั้นตอนนี้เพราะถ้าผิวแห้งเป็นขุยแล้วแต่งหน้า ผู้จับได้แน่ๆ ลง moisturizer เนื้อครีมไปเลยค่ะ ถ้าหน้าแห้งมากก็ลองลงเซรั่มก่อนลงครีมก็ดีนะ

We hope the weekend was a time of rest and fun for everyone! As you get ready to start or end the beginning of a new week, share us your skincare routines at #klairs #dearklairs ? #regram @peachkao Decided to keep it simple for my routine and only used @dear_klairs @klairs.global products! 1. Supple Preparation Facial Toner: I have to agree with everyone, this stuff is amazing. I'll probably do a full review of this once I hit the halfway mark. 2. Freshly Juiced Vitamin Drop: I haven't been using this as often because I'm actively using the Cosrx AHA 7 Whitehead Power Liquid. But I skipped the AHA and picked up the vitamin c. 3. Rich Moist Soothing Sheet Mask: I need 20 more of these ASAP! 4. Rich Moist Soothing Serum: This is probably my favorite Klairs product from the ones I've tried so far. I just love it makes my skin feel. 5. Midnight Blue Calming Cream: I don't really reach for this too often not because it's not good or anything. It's so small and I don't want to power through it in a few weeks. Now I just need Klairs to make a cleanser and an eye cream!

A post shared by Klairs | Simple, but enough (@klairs.global) on


2. ใช้ Primer ที่ไม่มีชิมเมอร์

เพื่อความติดทนของเครื่องสำอางสาวๆต้องลง primer นะจ้ะ สำหรับสาวๆผิวมันเลือก primer ที่คุมมันที่ให้ลุคที่ค่อนข้างแมตต์ ส่วนสาวผิวแห้งควรเลือกตัวที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดีค่ะ ควรเลี่ยงพวกไพร์มเมอร์ที่ผสมชิมเมอร์เยอะๆ เพราะเขาจะจับได้เอาน่ะสิ


3. เลี่ยงการลงรองพื้นที่ปิดเนียนกริบจนเกินไป

ถ้าผิวไม่มีปัญหามากใช้ tinted moisturizer ก็พอค่ะ หรืออาจจะเป็นพวกเบสหรือ BB ถ้าผิวมีปัญหาให้เลือกคุชชั่นที่ให้ฟินนิชลุคแบบฉ่ำๆเกาหลีๆก็ดีนะ ที่สำคัญต้องเฉดสีพอดีกับผิว งาน no makeup ห้าม หน้า ลอย!!!! แล้วแต้มคอนซีลเลอร์สีตรงกับผิวเด๊ะๆเพื่อกลบรอยต่างๆอีกที


4. ใช้ครีมบลัชเพื่อความเนียนและความติดทน

เกลี่ยครีมบลัชหรือ Tint สีชมพู ห้ามพีช!! ห้ามส้ม!! เพราะมันจะดูเสริมเติมแต่งนะคะสาวๆ ขอเป็นโทนแดงๆแบบมีเลือดฝาดจะดีกว่า จะใช้มือเกลี่ยก็ได้ หรือจะใช้ Beauty blenderก็ได้ค่ะ เน้นช่วงกลางโหนกแก้มจากนั้นเกลี่ยเบาๆให้ทั่ว พยายามอย่าให้กระจุกเป็นที่ๆ 


 

5. ลงครีมคอนทัวร์อ่อนๆ

เลือใช้ครีมคอนทัวร์หรือรองพื้นสีที่เข้มกว่าผิวแค่ 1 เฉดเพื่อความเนียน เกลี่ยบางๆช่วงกราม สันจมูกและข้างแก้มตามปกติ พยายามอย่าให้ตัวครีมคอนทัวร์ช่วงข้างแก้มชัดเกินหรือเป็นเส้นเกิน ให้เกลี่ยนให้เนียนๆแล้วเซตด้วยบรอนซ์เซอร์สีอ่อน สัหรับสาวๆหัวเหม่ง ให้ลงครีมคอนทัวร์ที่เหม่งสักนิด


6. ใช้แป้งฝุ่นเนื้อละเอียดในการเซ็ตทุกอย่าง

ใช้แป้งฝุ่นเซ็ตทุกอย่าง พยายามเลี่ยงแป้งผสมรองพื้นเพราะมันสังเกตได้ชัดว่าเราเพิ่มความปกปิดลงไปบนผิว แป้งผสมรองพื้นส่วนมากจะเป็นคราบได้ง่ายกว่าแป้งฝุ่นโปร่งแสง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยใช้แป้งฝุ่นเถอะค่ะสาวๆ ถ้าสาวๆคนไหนผิวมันอาจจะใช้แป้งโปร่งแสงอัดแข็งคุมมันแทนแป้งฝุ่นก็ได้ค่ะ


7. เซ็ตแก้มด้วยบลัชสีชมพูอ่อนๆอีกที

เพิ่มสีแก้มอีกนิดด้วยบลัชสีชมพูอ่อนๆ ปัดบางๆเพื่อให้ครีมบลัชติดทนขึ้นอักระดับ แต่ถ้าครีมบลัชของสาวๆสีชัดเจนอยู่แล้วก็ไม่ต้องปัดเพิ่มค่ะ เซ็ตด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสงเลย ขอย้ำคำเดิมว่าเลี่ยงบลัชสีปลอมๆเช่น พีช ส้ม ม่วง ไปเลยจร้าาา งานนี้เน้นโทนชมพูแดงๆ


 

8. กันคิ้วให้ได้ทรงมากที่สุด แล้วเขียนโดยใช้สีที่ใกล้เคียงกับผม

สาวๆคนไหนที่เป็นคนคิ้วเยอะอยู่แล้ว อาจจะไม่ต้องเขียนอะไรมาก แค่กันให้ได้รูปแล้วอาจจะใช้ดินสอเขียนคิ้วเติมๆช่วงที่แหว่งๆนิดหน่อย ส่วนสาวๆที่ไม่ค่อยมีขนคิ้วก็ให้กันคิ้วให้ได้รูปแล้วเขียนหางคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วจากนั้นถมคิ้วให้เต็มด้วยแบบฝุ่น ปัด Brow gel สีใสให้ขนคิ้วเรียงตัวและอยู่ทรงมากขึ้น ถ้าขนคิ้วบางมากๆอาจจะใช้มาสคาร่าคิ้วสีเดียวกันสีผมปัดนิดหน่อย


9.ทาลิปมันก่อนให้ปากชุ่มชื้น จากนั้นตามด้วยทิ้นหรือลิปสติกเนื้อครีมหรือเวลเลท 

ปากแตก ปากเป็นขุยแล้วทาลิปนี่ไม่ไหวนะสาวๆ เห็นชัดเจนเลยว่าเห้ย ทาลิปมานี่หว่าา!! ดังนั้นทำให้ปากชุ่มชื้นซะหน่อย สาวคนไหนปากแห้งมากให้สครับริมฝีปากก่อนทาลิปมัน จากนั้นใช้ประดาษทิชชู่ซับความมันส่วนเกินออกนิดหน่อย จากนั้นทาลิปเนื้อเวลเวทหรอืเนื้อครีม สาวคนไหนอยากได้ความธรรมชาติจัดๆให้ลงทิ้นท์สีแดงแล้วเกลี่ยเบาๆให้เหมือนปากแดงธรรมชาติ


10. ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าให้ขนตาเรียงเส้น

ดัดขนตาให้งอนสุดๆจากนั้นปัดมาสคาร่าสัก 2 ชั้น เลือกใช้มาสคาร่าที่ทั้งเพิ่มความยาวและเพิ่มความงอนเด้ง จะได้ไม่ต้องปัดซ้ำหลายรอบให้เป็นก้อน


11. ลงไฮไลท์เตอร์

เลือกไฮไลท์สีที่สว่างพอดีกับผิว พยายามอย่าเลือกที่ปัดแล้วเห็นชัดเกิน ของแบบบางเบาแต่มีความวาวสักนิด ปัดที่ปลายจมูก cupid bow และช่วงโหนกแก้ม ถ้าสาวๆคนไหนดวงจาดูเนื่อยล้า ให้แตะไฮไลท์เบาๆที่หัวตาเพื่อเพิ่มความสดใสให้ดวงตา


 

12. เซ็ตทุกอย่างด้วย setting spray

เลือกเซ็ตติ้งสเปรย์ที่มีคุณภาพหน่อยนะคะสาวๆ แค่สเปรย์น้ำแร่ไม่เพียงพอหรอกนะ ต้องใช้สเปรย์าำหรับเซ็ตไปเลย สาวๆหน้ามันอาจเลือกสูตรคุมมันเพิ่มเพิ่มความติดทนให้เครื่องสำอาง ส่วนสาวๆผิวแห้งควรเลือกสูตรที่ให้ความชุ่มชื้น สเปรย์ให้ทั่วใบหน้าจากนั้นรอให้แห้ง 


 

เสร็จแล้วก็พร้อมสวยได้เลย ลุคนี้จะใสๆ หน้าฉ่ำๆเหมือนไม่ได้แต่งหน้าเยอะ สาวๆคนไหนไม่ชอบแต่งเยอะเว่อร์ลองวิธีนี้ดูนะคะใสใสเหมือนน้องมอปลายเลยล่ะ ><

 

By poppypoppy